ขั้นตอนการทำ SEO : ขั้นที่ 1 เลือกคีย์เวิร์ด
ก่อนที่จะลงในเนื้อหาเรื่องการทำเวป ขอเขียนถึงเรื่อง SEO (Search Engine Optimization) กันก่อนนะครับ เผื่อมีบางคนหลงทางมาเจอ จะได้รู้ว่า SEO มันคืออะไร สำคัญยังไง ทำไมต้องทำ SEO ทำไมมีคนกล่าวถึงกันมากเหลือเกินก่อนอื่น ผมขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้เป็นเทพจุติจากที่ไหน แต่อาศัยว่ามีประสบการณ์ในการทำ SEO มาพอสมควร นอกจากนี้ ก็ยังได้ถ่ายทอดให้น้องๆ อีกหลายคนทำตาม แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนอีกหล่ะครับ SEO มันไม่ได้เป็นกฏตายตัว (เราไม่ใช่Google เอ็มเอสเอ็น หรือ ยาฮูนี่ครับ) มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ใครขยันหาข้อมูล รู้จักสังเกต นำมาปรับแต่งก็ได้เปรียบหล่ะครับ
SEO คืออะไร
SEO (เอสอีโอ) มาจากคำเต็มๆ ว่า Search Engine Optimization ความหมาย ก็คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ และกระบวนการต่างๆ ของเว็บไซต์ตั้งแต่การออกแบบ เขียนโปรแกรม และการโปรโมทเว็บ เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของ เครื่องมือค้นหา หรือ Search Engine เช่น Google, MSN, Yahoo, AOL เป็นต้นSEO สำคัญยังไง
ในการใช้งานอินเตอร์เนตในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนไทยแล้ว มันจะใช้ Search Engine ในการค้นหาข้อมูล แทนที่จะต้องพิมพ์ URL หรือชื่อเว็บเต็ม ๆ ก็หันมาใช้คำค้น หรือ Keyword ไปค้นเอาจาก Search Engine ต่าง ๆ ก็จะค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้อย่างง่ายดาย และตรงประเด็น มีให้เลือกเปรียบเทียบอีกหลายๆ แห่ง สำหรับเรื่องๆ นั้น และเมื่อค้นพบแล้ว ก็จะมีการแสดงผลออกมาหลายๆ หน้า หลายๆ เว็บไซต์ เว็บที่ถูกแสดงเป็นอันดับที่ 1 2 3 ก็จะถูกคลิกเข้าไปดูข้อมูลมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง เว็บไซต์ต่างๆ ย่อมต้องการให้เว็บตัวเองขึ้นอันดับ 1 ของ Keyword นั้นๆ เผื่อผลประโยชน์หลายๆ ด้านเช่น ขายสินค้า โฆษณา หรือโปรโมทร้านค้า บริษัทของตัวเอง ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง เพราะจากผลสำรวจ คนจะคลิก แค่เวปไซต์อันดันต้น ๆ เท่านั้น หากหาสิ่งที่ต้องการเจอแล้ว อย่าว่าแต่หน้าที่ 2 เลย อันดับท้าย ๆ ของหน้าแรก ยังไม่คลิกเลยเริ่มต้นด้วยการหา "คำค้น" หรือ "Keyword"
การทำ SEO จะต้องเริ่มต้น ด้วยการเลือก "คำค้น" ที่คิดว่าคนที่จะเป็นลูกค้าเราจะใช้ในการค้นหาสินค้าของเรา อาจจะนำมาจากชื่อสินค้า ชื่อหมวดหมู่ แต่ต้องระวังไม่ใช้คำที่มีความหมายกว้างไป เช่น หากเว็บเราขายลูกประคบสมุนไพร ที่ใช้ในสปา เราไม่ควรใช้คำว่า อุปกรณ์สปา แต่ควรใช้คำว่า ลูกประคบ หรือ ลูกประคบสมุนไพร ที่มีความหมายตรงกับสินค้าของเรามากกว่า แต่ถ้าเว็บเราขายสินค้า ที่เป็นอุปกรณ์สปา หลายหลากชนิด การใช้คำว่า อุปกรณ์สปา ก็จะตรงกับสินค้าของเรามากกว่าในการค้นหาสินค้า หากลูกค้าใช้คำค้นกว้าง ๆ หรือคำค้นเดี่ยว ๆ มักจะเป็นการหาข้อมูล ก่อนที่จะนำมาประเมินในการซื้อสินค้าก่อน เช่น หากต้องการซื้อชุดพื้นเมือง และนำคำว่า "ชุดพื้นเมือง" ก็จะเป็นการหาข้อมูลคร่าว ๆ (หรืออาจจะหาข้อมูลไปทำรายงานมากกว่า)
แต่ถ้าใช้คำที่เฉพาะเจาะจงเพิ่มเข้ามาในการค้นหาด้วย ก็จะเป็นการหาที่มีจุดประสงค์ชัดเจนกว่าเดิม
1. ชุดพื่นเมือง ราคาส่ง คนนี้ต้องการซื้อไปขายต่อ
2. ชุดพื้นเมือง เชียงใหม่ คนนี้อยู่เชียงใหม่ ต้องการหาว่า ที่ไหนมีชุดพื่นเมืองขายบ้าง
3. ชุดพื้นเมือง ส่งทั่วประเทศ คนนี้อาจจะอยู่ไกล ต้องการหาร้านที่ส่งไปให้เขาได้ด้วย
4. ชุดพื้นเมือง ราคาถูก คนนี้หาของถูก ถ้าคิดว่าสินค้าเราถูกกว่าคนอื่นจริง ก็ใช้คำนี้
ดังนั้น ในการเลือกคำค้น เราก็จะต้องดูด้วย ว่าลักษณะธุรกิจของเรา เป็นแบบใด แล้วลูกค้าเป้าหมาย จะใช้คำค้นแบบใด หากเราเป็นร้านขายส่ง ก็ต้องใช้คำค้นในลักษณะข้อที่ 1 หากเรามีร้านอยู่แค่ในจังหวัดเชียงใหม่ อยากเปิดเว็บเพื่อแสดงที่ตั้งร้านค้าให้ลูกค้ามาซื้อที่ร้าน ก็ใช้คำค้นแบบข้อที่ 2 แต่ถ้าเราขายทางอินเตอร์เนตและสามารถส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ ก็ใช้แบบข้อที่ 3 (อาจจะใช้คำอื่น ๆ ได้เช่น คุณภาพสูง ที่เป็นคำที่ลูกค้าใช้ และเจอเว็บเรา เขาก็จะซื้อ หรือสนใจ)
การเลือกคำค้นมีความสำคัญตรงที่ หากเราเลือกใช้คำที่กว้างเกินไป เช่น อุปกรณ์สปา หรือ ชุดพื้นเมือง จะทำให้มีคู่แข่งเยอะ กว่าจะทำให้ติดอันดับ 1 ยาก และ อาจจะได้คนเข้าเว็บ ที่ไม่ได้ต้องการซื้อสินค้าเรา หรือถ้าเลือกใช้คำที่เฉพาะเจาะจงเกินไป ก็จะมีคนใช้คำนั้นในการค้นหาน้อย
การหาคำค้น ให้เตรียมคำไว้ประมาณ 10 คำที่ตรงกับสินค้าของเรามากที่สุด ที่ลูกค้าใช้ และเจอเว็บเราแล้วก็อาจจะเป็นลูกค้าเราได้ ซึ่งเว็บที่ขายสินค้าอย่างเดียวกัน อาจจะใช้คำที่ไม่เหมือนกันเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกลยุทธของเว็บไซต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น